fbpx

มะเร็งปากมดลูก

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในเซลล์ของปากมดลูก ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส เอชพีวี (HPV) การตรวจคัดกรองและรับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้

มะเร็งปากมดลูก

ผู้ที่มีมดลูกทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ มะเร็งปากมดลูกมักเกิดในผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี การติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (human papillomavirus; HPV) บางชนิดเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก


เอชพีวีเป็นไวรัสทั่วไปที่ติดต่อระหว่างมีเพศสัมพันธ์ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของผู้ที่มีเพศสัมพันธ์จะมีเชื้อ HPV ในช่วงหนึ่งของชีวิต แต่จะมีผู้หญิงไม่กี่คนที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก


การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสเอชพีวี สามารถช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ หากพบมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก จะมีโอกาสรักษาหายได้สูง และสัมพันธ์กับการมีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

 

อาการและสัญญาณเตือนของมะเร็งปากมดลูก

อาการเริ่มแรกของมะเร็งปากมดลูก

ช่วงแรกที่เริ่มมีเซลล์ผิดปกติ ซึ่งเป็นระยะก่อนเป็นมะเร็งของปากมดลูกมักไม่ก่อให้เกิดอาการแสดงใดๆ อาการหรือสัญญาณมักปรากฏขึ้นเมื่อเริ่มเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้น ในขณะที่มะเร็งปากมดลูกระยะลุกลามซึ่งเป็นระยะที่มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย อาการอาจรุนแรงมากขึ้น ขึ้นอยู่กับเนื้อเยื่อและอวัยวะที่มะเร็งแพร่กระจายไป

อาการหรือสัญญาณต่อไปนี้ อาจแสดงถึงอาการของมะเร็งปากมดลูก:

– มีเลือดเป็นหยดหรือมีเลือดออกเล็กน้อยก่อนหรือหลังมีประจำเดือน
– มีประจำเดือนนานและมากกว่าปกติ
– มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ การสวนล้าง หรือหลังการตรวจภายใน
– มีตกขาวเพิ่มขึ้น
– รู้สึกเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์
– มีเลือดออกทางช่องคลอดหลังวัยหมดประจำเดือน
– ปวดเชิงกรานและ/หรือหลัง ตลอดเวลาโดยไม่ทราบสาเหตุ

“อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นมะเร็งปากมดลูกเสมอไป เนื่องจากอาการเหล่านี้พบได้บ่อยและอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้”
หากมีอาการเหล่านี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบแม้ว่าจะมีอาการเพียงเล็กน้อย เนื่องจากยิ่งตรวจพบและรักษามะเร็งปากมดลูกได้เร็วเท่าไร โอกาสที่จะป้องกันและรักษาหายยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

มะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร

อะไรคือปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งเป็นไวรัสทั่วไปที่สามารถติดต่อจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ เชื้อเอชพีวีมีหลายชนิด บางชนิดสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่ปากมดลูก ซึ่งอาจนำไปสู่มะเร็งปากมดลูกได้เมื่อเวลาผ่านไป ในขณะที่ชนิดอื่น ๆ อาจทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศหรือผิวหนัง

 

เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คนส่วนใหญ่จะได้รับเชื้อไวรัสเอชพีวีในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต แต่การได้รับเชื้อมักจะไม่แสดงอาการ ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าคนผู้นั้นติดเชื้ออยู่หรือไม่ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มีเชื้อไวรัสเอชพีวีจะสามารถหายได้เอง แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นก็มีโอกาสที่จะเกิดมะเร็งปากมดลูกได้เมื่อเวลาผ่านไป

 

“ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น

– การติดเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือภาวะอื่นๆ ที่ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยาก
– การสูบบุหรี่”

สามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกได้อย่างไร

การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสเอชพีวี

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่สามารถทำได้เพื่อช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกคือการได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี และเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ

วัคซีนมะเร็งปากมดลูก

วัคซีนจะป้องกันเชื้อเอชพีวี ชนิดที่มักก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ช่องคลอด และปากช่องคลอด


– แนะนำให้ฉีดวัคซีนในวัยรุ่นอายุ 11-12 ปี แต่สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี
– แนะนำให้ฉีดวัคซีนสำหรับทุกคนจนถึงอายุ 26 ปี หากยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน
– ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนสำหรับทุกคนที่มีอายุมากกว่า 26 ปี อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่บางคนที่อายุระหว่าง 27 ถึง 45 ปีที่ยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน อาจปรึกษาแพทย์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความเสี่ยงในการติดเชื้อ และประโยชน์ที่ได้รับจากการฉีดวัคซีน เพราะการฉีดวัคซีนในช่วงอายุนี้จะให้ประโยชน์น้อยกว่า เนื่องจากคนกลุ่มนี้อาจได้รับเชื้อเอชพีวีไปแล้ว

 

หากเริ่มฉีดวัคซีนก่อนอายุ 15 ปี แนะนำให้ฉีดสองครั้ง โดยห่างกัน 6 ถึง 12 เดือน สำหรับผู้ที่เริ่มฉีดวันซีนนี้หลังจากอายุ 15 ปี แนะนำให้ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม

 

การฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีใหม่ แต่ไม่สามารถรักษาการติดเชื้อหรือโรคมะเร็งปากมดลูกที่มีอยู่ได้ นี่คือเหตุผลที่ควรฉีดวัคซีนก่อนที่จะสัมผัสเชื้อเอชพีวี และควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ แม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

การตรวจคัดกรองสองอย่างนี้ สามารถช่วยค้นหาความผิดปกติที่อาจทำให้กลายเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ได้แก่


1. การตรวจแปปสเมียร์ โดยแพทย์จะสอดเครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายปากเป็ดเข้าไปในช่องคลอดเบาๆ และใช้เครื่องมือเข้าไปเก็บเซลล์ตัวอย่างที่ปากมดลูกเพื่อนำไปตรวจหาความผิดปกติ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในปากมดลูกที่อาจทำให้กลายเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
2. การทดสอบหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ที่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกวินิจฉัยและรักษาได้อย่างไร

สูตินรีแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและทำการรักษา

การรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรคที่เป็น โดยแพทย์จะวินิจฉัยจากขนาดของก้อนมะเร็งหรือการแพร่กระจายของมะเร็ง และใช้ข้อมูลนี้เพื่อวางแผนการรักษา

ประเภทของการรักษา

มะเร็งปากมดลูกรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็งปากมดลูก การรักษารวมถึงการผ่าตัด เคมีบำบัด และการฉายแสง


การผ่าตัด: แพทย์จะผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อมะเร็งออก
การรับยาเคมีบำบัด: เป็นการใช้ยาเพื่อลดขนาดหรือฆ่าเซลล์มะเร็ง ยาอาจเป็นยาเม็ดหรือยาที่ให้ทางเส้นเลือด หรือบางครั้งได้รับทั้งสองอย่าง
การฉายรังสี: การใช้รังสีพลังงานสูง (คล้ายกับรังสีเอกซ์เรย์) เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง

ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้อย่างไร

สิ่งเหล่านี้อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกได้ ได้แก่

– หากอายุไม่เกิน 26 ปี ควรรับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี
– ละเว้นการสูบบุหรี่
– ใช้ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์*

 

*การติดเชื้อเอชพีวีสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณอวัยวะเพศชายและหญิงที่สวมถุงยางอนามัยและอวัยวะเพศบริเวณอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผลของการใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี แต่การใช้ถุงยางอนามัยมีความสัมพันธ์กับอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกที่ลดลง

ข้อมูลโดย

ภญ. ปฐมา เทพชัยศรี
เภสัชกรคลินิก แผนกเภสัชกรรม
โรงพยาบาลบีเอ็นเอช

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

ยินยอมทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง
    เปิดใช้งานตลอด

    เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเว็บไซต์ของเรา เนื่องจากคุกกี้เหล่านี้ทำให้เว็บเซิร์ฟเวอร์สามารถตอบสนองต่อการกระทำของท่านได้ อีกทั้งยังช่วยในการแสดงผลหน้าเว็บต่อท่าน และยังรวมถึงมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องในระหว่างการท่องเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้จะคงอยู่จนกว่าจะสิ้นสุดการเยี่ยมชมของท่านและจะถูกลบอัตโนมัติทันที
    รายชื่อคุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/เพื่อประสิทธิภาพ

    ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ของเราด้วยจำนวนครั้งการเข้าดูหน้าเว็บและจำนวนผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ โดยบริการวิเคราะห์เว็บจะวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมของผู้ใช้ ซึ่งเราจะใช้ข้อมูลดังกล่าวในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้หรือค้นหาส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ที่ควรได้รับการปรับปรุง อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถระบุถึงตัวบุคคลได้ (กล่าวคือ เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่านและไม่มีการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ และที่อยู่อีเมลของท่าน) และข้อมูลเหล่านี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติเท่านั้น
    รายชื่อคุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/เพื่อประสิทธิภาพ

  • คุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน

    ช่วยให้เรารับรู้เมื่อท่านกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา ด้วยข้อมูลนี้เราจึงสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ของเราให้เป็นไปตามความต้องการของท่านได้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเยี่ยมชมของท่านให้มีประสิทธิภาพและเฉพาะเจาะจงสำหรับท่านมากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วข้อมูลที่รวบรวมโดยคุกกี้เหล่านี้จะไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
    รายชื่อคุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา

    จะอยู่บนอุปกรณ์ของท่านเพื่อบันทึกหน้าเว็บไซต์หรือลิงค์ที่ท่านได้เยี่ยมชมหรือติดตาม ข้อมูลที่ได้จะถูกใช้เพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ของเราและแคมเปญโฆษณาของเราเพื่อให้เหมาะกับความสนใจของท่าน
    คุกกี้เพื่อการโฆษณา

บันทึก