fbpx

โรคหัวใจวาย หรือหัวใจล้มเหลว (Heart Failure)

ภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่ได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ ภาวะหัวใจล้มเหลวอาจเป็นอันตรายรุนแรงถึงชีวิตได้

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

ภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่ได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ ภาวะหัวใจล้มเหลวอาจเป็นอันตรายรุนแรงถึงชีวิตได้

โรคหัวใจวาย หรือหัวใจล้มเหลว หมายถึงอะไร

ภาวะหัวใจล้มเหลว หมายถึง ภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้อย่างเพียงพอ มักเกิดขึ้นเนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอหรือแข็งจนเกินไป ทำให้เลือดไม่สามารถเลี้ยงหัวใจได้อย่างเพียงพอ มักไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่โดยทั่วไปจะสามารถควบคุมอาการได้


ภาวะหัวใจล้มเหลวสามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัย แต่จะพบมากในผู้สูงอายุ

 

ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเป็นภาวะที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งหัวใจยังเต้นอยู่แต่ไม่สามารถส่งออกซิเจนได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลฉุกเฉินจากทีมแพทย์

 

อาการหัวใจวาย/ล้มเหลวเฉียบพลัน

อาการที่สงสัยว่าอาจเกิดหัวใจวาย ได้แก่

– หายใจลำบาก ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการที่พบบ่อยที่สุด
– หายใจหอบเหนื่อย
– ความรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
– หายใจลำบากขณะนอนราบ
– แน่นหน้าอก

 

อาการอื่น ๆ เช่น
– หัวใจเต้นผิดจังหวะ
– เจ็บหน้าอก
– ไอ
– แขนหรือขาบวม
– คลื่นไส้
– สับสน
– หมดสติ

 

ภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นภาวะที่ร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน การรักษาแต่เนิ่นๆ จะเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัว และในระยะยาวจะลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

หากไม่ได้รับการรักษา ภาวะหัวใจล้มเหลวอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ซึ่งอาจรวมถึงภาวะหัวใจหยุดเต้น

 

สาเหตุของการเกิดหัวใจวายเฉียบพลัน

หัวใจวายเฉียบพลันเกิดจาก

ผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจ หรือมีภาวะบางอย่างที่อาจทำให้หัวใจทำงานหนักผิดปกติ การที่หัวใจทำงานหนักมากขึ้น นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของหัวใจซึ่งอาจรวมถึง:


– หัวใจโต
– การไหลเวียนของเลือดลดลง
– หลอดเลือดหัวใจตีบ
– หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดปกติ
– กล้ามเนื้อหัวใจแข็ง

 

ในช่วงแรกหัวใจจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย และใช้ระยะเวลานานก่อนที่จะเกิดอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงจะเพิ่มขึ้น ทำให้หัวใจทำงานหนักกว่าที่ควร เมื่อหัวใจไม่สามารถทำงานหนักได้อีกต่อไป จะทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

 

ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเกิดขึ้นได้แม้ในผู้ที่มีสุขภาพดี มีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถทำให้หัวใจตึงเครียดอย่างฉับพลัน หรือทำให้หัวใจอ่อนแอลงหรือได้รับความเสียหายเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งสามารถนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้

 

สาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ได้แก่
– โรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งอาจทำให้หลอดเลือดตีบตันได้
– กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียดพลัน ซึ่งสร้างความเสียหายต่อกล้ามเนื้อหัวใจและมักเกิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจ
– ความดันเลือดสูง
– ความผิดปกติของลิ้นหัวใจ
– หัวใจเต้นผิดปกติอย่างรุนแรง
– โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
– กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
– กล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติ
– โรคปอดขั้นรุนแรง

 

นอกจากนี้ ปัญหาสุขภาพที่ทำให้หัวใจเกิดความเครียด ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ได้แก่


– โรคไตระยะท้าย
– โรคพิษสุราเรื้อรัง
– โรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด
– โรคเบาหวาน
– โรคความดันเลือดสูง
– โรคต่อมไทรอยด์ทำงานมากผิดปกติ (hyperthyroidism)
– มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
– โรคหลอดเลือดสมอง
– การติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อหัวใจ

 

ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ รวมถึง อายุที่เพิ่มขึ้น มีภาวะอ้วน ไขมันในเลือดสูง การใช้ยาเคมีบำบัด เป็นต้น

การมีปัจจัยเสี่ยงเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ แต่การมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง หมายถึงโอกาสการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวที่สูงขึ้น

 

การแบ่งระยะของภาวะหัวใจล้มเหลว

การแบ่งระยะของภาวะหัวใจล้มเหลวตาม New York Heart Association

หากได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหัวใจล้มเหลว แพทย์จะจำแนกระยะเพื่อบอกว่าหัวใจล้มเหลวอยู่ในขั้นใด สิ่งนี้สามารถช่วยแนะนำการรักษาได้ โดยแบ่งตามอาการเป็น 4 ระยะ ดังนี้


ระยะ 1 ไม่พบอาการใด ๆ
ระยะ 2 สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างง่ายดาย แต่รู้สึกเหนื่อยหรือหายใจไม่ออกเมื่อออกแรง
ระยะ 3 มีปัญหาในการทำกิจกรรมประจำวัน
ระยะ 4 มีอาการหัวใจล้มเหลวชัดเจน เช่น เหนื่อย หายใจลำบาก แม้เป็นเวลาพักผ่อน

 

การวินิจฉัย และการรักษา

การวินิจฉัย

แพทย์จะทำการประเมินอย่างรวดเร็วซึ่งรวมถึง


1. ซักประวัติสุขภาพ ประวัติส่วนตัว ประวัติครอบครัวที่มีบุคคลเป็นโรคหัวใจ ประวัติการสูบบุหรี่ ยาประจำตัว เป็นต้น
2. ตรวจร่างกาย รวมถึงการฟังหัวใจและตรวจอาการบวมน้ำ

 

นอกจากนี้ ยังมีการตรวจเพิ่มเติม เช่น


– Electrocardiogram (EKG) เพื่อบันทึกและประเมินลักษณะคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกติ
– X-ray ทรวงอกเพื่อตรวจหาของเหลวที่สะสมในหัวใจหรือปอด
– การตรวจหัวใจด้วยเครื่องสะท้อนเสียงความถี่สูง (Echocardiogram) เพื่อดูการเต้นของหัวใจและการไหลเวียนของเลือด
– การสวนหัวใจเพื่อตรวจดูหลอดเลือดหัวใจ

 

การรักษาผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

ไม่มีวิธีรักษาภาวะหัวใจล้มเหลวให้หายขาด แต่การรักษาสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันอาจส่งผลต่อร่างกายในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ การรักษาจึงมุ่งเน้นไปที่การจัดการอาการและป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวในอนาคต ผู้ป่วยอาจต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจนกว่าอาการจะคงที่

 

สาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจะเป็นตัวกำหนดแผนการรักษา ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันอาจเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย การรักษาภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังมักจะเหมือนกัน

 

ทางเลือกในการรักษาภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ได้แก่ การใช้ยา การใส่อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการผ่าตัด

 

วิธีป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

การใช้ชีวิตที่เอื้อต่อสุขภาพที่ดีของหัวใจสามารถลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้

เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงบางอย่างได้ เช่น อายุที่มากขึ้น กุญแจสำคัญในการป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวคือการลดปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมได้

 

หากพบว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว ควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้เพื่อรักษาสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง:


– รักษาน้ำหนักให้เป็นปกติ หากน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนอาจเพิ่มความเสี่ยงได้
– ออกกำลังกายเป็นประจำ
– กินอาหารที่สมดุลซึ่งมีเนื้อแดงและน้ำตาลต่ำ
– เลิกสูบบุหรี่
– หาวิธีจัดการกับความเครียด
– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
– จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์

 

ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอาหารและกิจกรรมที่ทำหลังเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว สิ่งสำคัญคือต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำและรายงานอาการผิดปกติให้แพทย์ทราบ ยิ่งสามารถได้รับการวินิจฉัยอาการและเริ่มการรักษาได้เร็วเท่าไร แนวโน้มคุณภาพชีวิตก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น

 

ข้อมูลโดย

ภญ. ปฐมา เทพชัยศรี เภสัชกรคลินิก แผนกเภสัชกรรม โรงพยาบาลบีเอ็นเอช

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

ยินยอมทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง
    เปิดใช้งานตลอด

    เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเว็บไซต์ของเรา เนื่องจากคุกกี้เหล่านี้ทำให้เว็บเซิร์ฟเวอร์สามารถตอบสนองต่อการกระทำของท่านได้ อีกทั้งยังช่วยในการแสดงผลหน้าเว็บต่อท่าน และยังรวมถึงมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องในระหว่างการท่องเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้จะคงอยู่จนกว่าจะสิ้นสุดการเยี่ยมชมของท่านและจะถูกลบอัตโนมัติทันที
    รายชื่อคุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/เพื่อประสิทธิภาพ

    ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ของเราด้วยจำนวนครั้งการเข้าดูหน้าเว็บและจำนวนผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์ โดยบริการวิเคราะห์เว็บจะวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมของผู้ใช้ ซึ่งเราจะใช้ข้อมูลดังกล่าวในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้หรือค้นหาส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ที่ควรได้รับการปรับปรุง อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถระบุถึงตัวบุคคลได้ (กล่าวคือ เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่านและไม่มีการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ และที่อยู่อีเมลของท่าน) และข้อมูลเหล่านี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติเท่านั้น
    รายชื่อคุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/เพื่อประสิทธิภาพ

  • คุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน

    ช่วยให้เรารับรู้เมื่อท่านกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา ด้วยข้อมูลนี้เราจึงสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ของเราให้เป็นไปตามความต้องการของท่านได้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเยี่ยมชมของท่านให้มีประสิทธิภาพและเฉพาะเจาะจงสำหรับท่านมากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วข้อมูลที่รวบรวมโดยคุกกี้เหล่านี้จะไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
    รายชื่อคุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา

    จะอยู่บนอุปกรณ์ของท่านเพื่อบันทึกหน้าเว็บไซต์หรือลิงค์ที่ท่านได้เยี่ยมชมหรือติดตาม ข้อมูลที่ได้จะถูกใช้เพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ของเราและแคมเปญโฆษณาของเราเพื่อให้เหมาะกับความสนใจของท่าน
    คุกกี้เพื่อการโฆษณา

บันทึก