โลกไม่สวย! หากติดเชื้อไวรัส HPV
เกิดเป็นผู้หญิง ใช่ว่าจะต้องดูแลเพียงความสวยงามภายนอกเท่านั้น เพราะโลกนี้ยังมีโรคต่างๆมากมายที่เรียกว่าถูกฉโลกกับผู้หญิงอย่างจังทั้งๆที่เกิดกับผู้ชายก็ได้ แต่เชื้อดันเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ส่วนตัวของผู้หญิง อย่างมะเร็งเต้านม ที่ผู้ชายก็เป็นได้แต่มีโอกาสน้อยนิดเพียงแค่ 1% เท่านั้น หรือมะเร็งปากมดลูกที่คุณผู้ชายพาเชื้อ HPV สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกมาให้ กว่าจะรู้ตัวว่าติดเชื้อ โลกก็ไม่สวยเสียแล้ว
มะเร็งที่กล่าวมานี้ป้องกันได้ ด้วยการหมั่นตรวจสุขภาพตามกำหนด หรือใครที่ทราบว่าตัวเองมีความเสี่ยงอยู่แล้วเช่น ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง ก็ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นอีก แต่เชื้อ HPV นั้นถึงแม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม แต่หากติดเชื้อสายพันธุ์เสี่ยงสูงเข้า ฝังลึกและนาน จะทำให้เซลล์นั้นกลายเป็นเนื้อร้ายก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้
- HPV เป็นไวรัสที่มีอยู่เป็นร้อยสายพันธุ์ แต่มี 15 สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง
- HPV ติดต่อโดยการสัมผัส ขณะมีเพศสัมพันธ์ ทำให้เกิดการติดเชื้อตามอวัยวะต่างๆ เช่น ที่ปาก คอหอย ทวารหนัก องคชาติ มดลูก ปากมดลูก และเกิดขึ้นได้ทั้งในคู่รักชาย-ชาย, ชาย-หญิง และหญิง-หญิง หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน โอกาสที่จะได้รับเชื้อแทบจะไม่มี
- ปกติแล้ว ร่างกายสามารถกำจัด HPV ออกไปเองอัตโนมัติภายใน 2 ปีแต่ถ้านานกว่านั้นจะมีผลกับเซลล์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกถึง 70%
- ส่วนสายพันธุ์ 6 และ 11 เป็นสาเหตุของหูดหงอนไก่ ซึ่งหูดหงอนนั้นรักษาให้หายได้ แต่มะเร็งปากมดลูกนั้นเมื่อเป็นแล้วรักษายาก ค่าใช้จ่ายสูง
- ความน่ากลัวคือ เมื่อติดเชื้อแล้วจะไม่มีอาการแสดง มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ผู้ได้รับเชื้อมักไม่รู้ตัวจนกระทั่งแสดงอาการ เช่น เลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ (ที่ไม่ใช่ประจำเดือนหรือเมื่อหมดวัยมีประจำเดือน) เจ็บขณะร่วมเพศ เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ฯลฯ นั่นหมายถึงว่าได้เป็นมะเร็งปากมดลูกในระยะที่ 2-4 แล้ว
การจะรู้ได้ว่าเราติดเชื้อ HPV หรือไม่ สามารถทำได้ด้วยการตรวจหาเชื้อ HPV โดยการตรวจ Pap Smear, Thin Prep, HPV DNA หากพบก็ทำการรักษาต่อไป ลดโอกาสเป็นมะเร็งได้ตั้งแต่เซลยังไม่กลายเป็นเนื้อร้าย ซึ่งมีโอกาสหายมีมาก แต่ทางที่ดีที่สุดคือการป้องกัน
การป้องกันการติดเชื้อ HPV ที่ได้ผลดีคือ
การไม่รับเชื้อโดยการไม่มีเพศสัมพันธ์ เพราะแม้จะสวมถุงยางอนามัย ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100%
ดังนั้นจึงมีการคิดค้นวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ซึ่งป้องกันได้ถึง 70-90% แต่การจะป้องกันให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดคือต้องฉีดในผู้ที่ยังไม่มีความเสี่ยงติดเชื้อ จึงแนะนำให้ฉีดได้ในเด็กผู้หญิงตั้งแต่อายุ 9 ขวบเป็นต้นไป โดยฉีดทั้งหมด 3 เข็ม/คอร์ส อย่างไรก็ตามยังคงแนะนำให้ตรวจภายในตามปกติเมื่อถึงเวลาตามช่วงวัย
วัคซีนป้องกันการติดเชื้อ HPV ที่นิยมปัจจุบัน มี 2 ชนิด คือ
- ชนิด 2 สายพันธุ์ (ป้องกันสายพันธุ์ที่ 16 และ 18 สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก)
- ชนิด 4 สายพันธุ์ (ป้องกันสายพันธุ์ที่ 6, 11, 16 และ 18 สาเหตุของหูดหงอนไก่ และมะเร็งปากมดลูก)
การจะเลือกว่าควรฉีดวัคซีนชนิดใดควรปรึกษาแพทย์ และไม่ว่าจะโรคอะไร การป้องกันทำได้ง่ายกว่าการรักษาเสมอ
ทำนัดหมายฉีดวัคซีน HPV
อย่าปล่อยให้มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่ทำให้ผู้หญิงทั่วโลกเสียชีวิตเป็นอันดับ 2 อีกต่อไปในเมื่อคุณป้องกันได้